ผู้ติดตาม

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ทศชาติชาดก

ทศชาติชาดก


ชาดก เป็นเรื่องที่มีมาก่อนพุทธกาล เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ หรือ เป็นชีวประวัติในชาติก่อนของพระพุทธเจ้า คือ สมัยที่พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีเพื่อตรัสรู้ นั่นเอง
          ชาดก เป็นเรื่องเล่าคล้ายนิทาน บางครั้งจึงเรียกว่า นิทานชาดก แต่มีความหมายแตกต่างจากนิทานที่เล่ากันทั่วไป คือ ชาดกเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง แต่นิทานเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น
          ชาดกที่ทรงเล่านั้นมีนับพันเรื่อง หมายถึง พระองค์ได้เสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์นับพันชาติ โดยทรงเกิดเป็นมนุษย์บ้าง เป็นสัตว์บ้าง แต่ที่รู้จักกันโดยทั่วไป คือ ๑๐ ชาติสุดท้ายที่เรียกว่า ทศชาติชาดก และชาติสุดท้ายที่สุดที่ทรงเกิดเป็นพระเวสสันดร จึงเรียกเรื่องพระเวสสันดรนี้ว่า เวสสันดรชาดก
ประเภทของชาดก

ชาดกมี 2 ประเภท  คือ
          1. นิบาตชาดก   เป็นชาดกในพระไตรปิฎกมี 500 เรื่อง   แบ่งออกเป็นหมวดๆ  ตามจำนวนคาถา   นับตั้งแต่ 1 คาถาถึง 80 คาถา   ชาดกที่มี 1 คาถาเรียกว่า เอกนิบาตชาดก   2 คาถาเรียกว่า  ทุกนิบาตชาดก  3 คาถาเรียกว่า ตักนิบาตชาดก  4 คาถาเรียกว่า  จตุคนิบาตชาดก  5 คาถาเรียกว่า  ปัญจกนิบาตชาดก  ชาดกที่มีเกิน 80 คาถาขึ้นไปเรียกว่า  มหานิบาตชาดก  ซึ้งมี 10 เรื่อง  เรียก  ทศชาติ  หรือ  พระเจ้าสิบชาติ
          2. ปัญญาสชาติชาดก   เป็นชาดกที่แต่งขึ้นจากนิทานพื้นเมือง  ไม่มีในพระไตรปิฎก  หรือเรียกว่า  ชาดกนิบาตมี 50 เรื่อง  พระภิกษุชาวเชียงใหม่แต่งขึ้นเมื่อประมาณพ.ศ. 2000-2200  เป็นภาษามคธ  โดยเลียนแบบนิบาตชาดก  ครั้นเมื่อพ.ศ.2443-2448  พระบรมวงศ์เธอกรมพระสมมตอมรพันธ์  ดำรงตำแหน่งองค์สภานายก  หอพระสมุดสำหรับพระนคร  ได้ทรงแปลเป็นภาษาไทย  เรื่องปัญญสชาดกจึงแพร่หลาย
๑. เตมียชาดก(พระเตมีย์ใบ้)

   
ชาดกเรื่องนี้แสดงถึงการบำเพ็ญเนกขัมมบารมีคือการออกบวชหรือออกจากกาม  เล่าเรื่องเตมียราชกุมารเกรงการที่จะได้ครองราชสมบัติเพราะทรงสลด พระหฤทัยที่เห็นราชบุรษลงโทษโจรตามพระราชดำรัสของพระราชา เช่นเฆี่ยนพันครั้งบ้าง เอาหอกแทงบ้าง เอาหลาวเสียบบ้างจึงใช้วิธีแสร้งทำเป็นง่อยเปลี้ย หูหนวก เป็นใบ้ไม่พูดจากับใคร    แม้จะถูกทดลองต่าง ๆก็อดกลั้นไว้   ไม่ยอมแสดงอาการพิรุธให้ปรากฏ ทั้งนี้เพื่อจะเลี่ยงการครองราชสมบัติพระราชาปรึกษาพวกพรากมณ์ ก็ได้รับคำแนะนำใหนำราชกุมารไปฝังเสีย.
   พระราชมารดาทรงคัดค้านไม่สำเร็จ   ก็ทูลขอให้พระราชกุมารครองราชสัก  ๗  วัน แต่พระราชกุมารก็ไม่ยอมพูด    ต่อเมื่อ  ๗  วันแล้ว สารถีนำราชกุมารขึ้นสู่รถ เพื่อจะฝังตามรับสั่งพระราชา        ขณะที่ขุดหลุ่มอยู่พระราชกุมารก็เสด็จลงจากรถ     ตรัสปราศัยกับนายสารถี    แจ้งความจริงให้ทราบว่า    มีพระประสงค์จะออกบวช สารถีเลื่อมใสในคำสอนขอออกบวชด้วยจึงตรัสให้นำรถกลับไปคืนก่อน สารถีนำความไปเล่าถวายพระราชมารดาพระราชบิดาให้ทรงทราบ.
   
ทั้งสองพระองค์พร้อมด้วยอำมาตย์ราชบริพารจึงได้เสด็จออกไปหาเชิญให้พระราชกุมารเสด็จกลับไปครองราชสมบัติแต่พระราชกุมารกลับถวายหลักธรรมให้ยินดี ในเนกขัมมะ    คือการออกจากกาม.  พระชนกชนนีพร้อมด้วยบริวารทรงเลื่อมใสในคำสอน    ก็เสด็จออกผนวชและบวชตาม.   และได้มีพระราชาอื่นอีกเป็นอันมาก สดับพระราชโอวาทขอออกผนวชตาม.
 ๒. มหาชนกชาดก(พระมหาชนก)

   ชาดกเรื่องนี้แสดงถึงการบำเพ็ญวิริยบารมี  คือความพากเพียร ใจความสำคัญ คือพระมหาชนกราชกุมารเดินทางไปทางทะเลเรือแตก คนทั้งหลายจมน้ำตายบ้าง เป็นเหยี่อของสัตว์น้ำบ้าง      แต่ไม่ทรงละความอุตสาหะ        ทรงว่ายน้ำโดยกำหนดทิศทางแห่งกรุงมิถิลา    ในที่สุดก็ได้รอดชีวิตกลับไปถึงกรุงมิถิลาได้ครองราชสมบัติ.ชาดกเรื่องนี้เป็นที่มาแห่งภาษิตที่ว่าเป็นชายควรเพียรร่ำไปอย่างเบื่อหน่าย ( ความเพียร ) เสีย,เราเห็นตัวเองเป็นได้อย่างที่ปรารถนา,ขึ้นจากน้ำมาสู่บกได้   
๓. สุวรรณสามชาดก(สุวรรณสาม)    

   ชาดกเรื่องนี้แสดงถึงการบำเพ็ญเมตตาบารมีคือการแผ่ไมตรีจิตคิดจะให้สัตว์ทั้งปวงเป็นสุขทั่วหน้า  มีเรื่องเล่าว่า สุวรรณสามเลี้ยงมารดาบิดาของตน ซึ่งเสียจักษุในป่าและเนื่องจากเป็นผู้มีเมตตาปรารถนาดีต่อผู้อื่นหมู่เนื้อก็เดินตามแวดล้อมไปในที่ต่าง ๆ วันหนึ่งถูกพระเจ้ากรุงพาราณสีชื่อปิลยักษ์ยิงเอาด้วยธนู ด้วยเข้าพระทัยผิดภายหลังเมื่อทราบว่าเป็นมาณพผู้เลี้ยงมารดาบิดา ก็สลดพระทัยจึงไปจูงมารดาบิดาของสุวรรณสามมา.
   มารดาบิดาของสุวรรณสามก็ตั้งสัจจกิริยาอ้างคุณความดีของสุวรรณสามขอให้พิษของศรหมดไป สุวรรณสามก็ฟื้นคืนสติและได้สอนพระราชา แสดงคติธรรมว่า ผู้ใดเลี้ยงมารดาบิดาโดยธรรมแม้เทวดาก็ย่อมรักษาผู้นั้น ย่อมมีคนสรรเสริญในโลกนี้ละโลกนี้ไปแล้วก็บันเทิงในสวรรค์ ต่อจากนั้นเมื่อพระราชาให้สั่งสอนต่อไปอีกก็สอนให้ทรงปฏิบัติธรรมปฏิบัติชอบในบุคคลทั้งปวง.
๔ . เนมิราชชาดก(พระเนมิราช)

   ชาดกเรื่องนี้แสดงถึงการบำเพ็ญอธิษฐานบารมีคือความตั้งมั่นคง.  มีเรื่องเล่าว่าเนมิราชกุมารได้ครองราชสืบสันตติวงศ์ต่อจากพระราชบิดาทรงบำเพ็ญคุณงาม ความดีเป็นที่รักของมหาชน และในที่สุดเมื่อทรงพระชราก็ทรงมอบราชสมบัติแก่พระราชโอรสเสด็จออกผนวชเช่นเดียวกับที่พระราชบิดาของพระองค์เคยทรงบำเพ็ญมา.
   ๕ . มโหสถชาดก(พระมโหสถ)

  ชาดกเรื่องนี้แสดงถึงการบำเพ็ญปัญญาบารมีคือความทั่วถึงสิ่งที่ควรรู้.  มีเรื่องเล่าว่ามโหสถบัณฑิตเป็นที่ปรึกษาหนุ่มของพระเจ้าวิเทหะแห่งกรุงมิถิลา  ท่านมี ความฉลาดรู้สามารถแนะนำในปัญหาต่าง ๆ  ได้อย่างถูกต้องรอบคอบ  เอาชนะที่ปรึกษาอื่น ๆที่ริษยาใส่ความ   ด้วยความดีไม่พยาบาทอาฆาตครั้งหลังใช้อุบายป้องกัน พระราชาจากราชศัตรูและจับราชศัตรูซึ่งเป็นกษัตริย์พระนครอื่นได้.
๖ . ภูริทัตชาดก(พระภูริฑัต)

   ชาดกเรื่องนี้แสดงถึงการบำเพ็ญบำเพ็ญศีลบารมีคือการรักษาศีล.  มีเรื่องเล่าว่า  ภูริฑัตตนาคราชไปจำศีลอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา.   ยอมอดทนให้หมองูจับไป ทรมานต่าง ๆทั้ง ๆ ที่สามารถจะทำลายหมองูได้ด้วยฤทธิ์ มีใจมั่นต่อศีลของตนในที่สุดก็ได้อิสรภาพ.
๗ . จันทกุมารชาดก(พระจันทราช )
   ชาดกเรื่องนี้แสดงถึงการบำเพ็ญขันติบารมีคือความอดทน   มีเรื่องเล่าว่า   จันทกุมารเป็นโอรสของพระเจ้าเอกราช เคยช่วยประชาชนให้พ้นจากคดี   ซึ่ง กัณฑหาลพราหมณ์ราชปุโรหิตาจารย์รับสินบนตัดสินไม่เป็นธรรม ประชาชนก็พากันเลื่อมใสเปล่งสาธุการทำให้กัณฑหาลพราหมณ์ผูกอาฆาตในพระราชกุมาร.
   เมื่อพระเจ้าเอกราชทรงราชสุบิน  เห็นดาวดึงสเทวโลกเมื่อตื่นจากบรรทมทรงใคร่จะทราบทางไปสู่เทวโลก  ตรัสถามกัณฑหาลพราหมณ์จึงเป็นโอกาสให้พราหมณ์ แก้แค้นด้วยการกราบทูลแนะนำให้ตัดพระเศียรพระโอรส ธิดาเป็นต้นบูชายัญ.
   พระเจ้าเอกราชเป็นคนเขลา ก็สั่งจับพระราชโอรส ๔ พระองค์ พระราชธิดา ๔ พระองค์ไปที่พระลานหลวง  เพื่อเตรียมประหารบูชายัญ นอกจากนั้นยังสั่งจับพระมเหสี ๔ พระองค์และคนอื่น ๆ อีก เพื่อเตรียมการประหารเช่นกัน แม้ใครจะทัดทานขอร้องก็ไม่เป็นผล.ร้อนถึงท้าวสักกะ ( พระอินทร์) ต้องมาข่มขู่และชี้แจงให้หายเข้าใจผิด ว่าวิธีนี้ไม่ใช่ทางไปสวรรค์ .มหาชนจึงรุมฆ่าพราหมณ์ปุโรหิตนั้นและเนรเทศพระเจ้าเอกราชแล้วกราบทูลเชิญจันทกุมารขึ้นครองราชย์.
๘ . นารทชาดก(พระพรหมนารท)

    ชาดกเรื่องนี้แสดงถึงการบำเพ็ญอุเบกขาบารมีคือการวางเฉย. มีเรื่องเล่าว่าพรหมนารทะช่วยเปลื้องพระเจ้าอังคติราชให้กลับจากความเห็นผิด  มามีความเห็น ชอบตามเดิม(ความเห็นผิดนั้น เป็นไปในทางว่าสุขทุกข์เกิดเองไม่มีเหตุ คนเราเวียนว่ายตายเกิดหนักเข้าก็บริสุทธิ์ได้เอง ซึ่งเรียกว่าสังสารสุทธิ) .
๙ . วิฑูรชาดก(พระวิธูร)

    ชาดกเรื่องนี้แสดงถึงการบำเพ็ญสัจจบารมีคือความสัตย์. มีเรื่องเล่าว่าถึงวิฑูรบัณฑิต     ซึ่งเป็นผู้ถวายคำแนะนำประจำราชสำนัก    พระเจ้าธนัญชัยโกรัพยะ เป็นผู้ที่พระราชาและประชาชนรักใคร่เคารพนับถือมากครั้งหนึ่งปุณณกยักษ์มาท้าพระเจ้าธนัญชัยโกรัพยะเล่นสกาถ้าตนแพ้จักถวายมณีรัตนะอันวิเศษ ถ้าพระราชาแพ้ ก็จะพระราชทานทุกสิ่งที่ต้องการเว้นแต่พระกายของพระองค์ ราชสมบัติ และพระมเหสี
   ในที่สุดพระราชาแพ้    ปุณณกยักษ์จึงทูลขอตัววิฑูรบัณฑิตพระราชาจะไม่พระราชทานก็เกรงเสียสัตย์  พระองค์ตีราคาวิฑูรบัณฑิตยิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทองใด ๆทรงหน่วงเหนี่ยวด้วยประการต่าง ๆแต่ก็ตกลงกันไปไต่ถามให้วิฑูรบัณฑิตตัดสินวิฑูรบัณฑิตก็ตัดสินให้รักษาสัตย์ คือตนเองยอมไปกับยักษ์ความจริงยักษ์ต้องการ เพียงเพื่อจะนำหัวใจของวิฑูรบัณฑิตไปแลกกับธิดาพญานาค    ซึ่งความจริงเป็นอุบายของภริยาพญานาคผู้ใคร่จะได้สดับธรรมของวิฑูรบัณฑิต    จึงตกลงกับสามีว่า ถ้าปุณณกยักษ์ต้องการธิดาของตน ก็ขอให้นำหัวใจของวิฑูรบัณฑิตมา.
   แม้ยักษ์จะหาวิธีทำให้ตายก็ไม่ตาย   วิฑูรบัณฑิตกลับแสดงสาธุนรธรรม   (ธรรมของคนดี)   ให้ยักษ์เลื่อมใสและได้แสดงธรรมแก่พญานาค   ในที่สุดก็ได้กลับสู่ กรุงอินทปัตถ์ มีการฉลองรับขวัญกันเป็นการใหญ่.
   ๑๐ . เวสสันดรชาดก(พระเวสสันดร)

   ชาดกเรื่องนี้แสดงถึงการบำเพ็ญทานบารมีคือบริจากทาน.  มีเรื่องเล่าถึงพระเวสสันดรผู้ใจดีบริจากทุกอย่างที่มีคนขอครั้งหนึ่งประทานช้างเผือกคู่บ้านคู่เมือง แก่พราหมณ์ชาวกาลิงคะ ซึ่งมาขอช้างไปเพื่อให้หายฝนแล้ง    แต่ประชาชนโกรธขอให้เนรเทศพระราชบิดา  จึงจำพระทัยเนรเทศ    ซึ่งพระนางมัทรีพร้อมด้วยโอรส ธิดาได้ตามเสด็จไปด้วย
   เมื่อชูชกไปขอสองกุมาร ก็ประทานอีกภายหลังพระเจ้าสญชัยพระราชบิดาทรงไถ่สองกุมาร แล้วเสด็จไปรับกลับกรุง.(เรื่องนี้แสดงการเสียสละส่วนน้อยเพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่คือการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า อันจะเป็นทางให้ได้บำเพ็ญประโยชน์ส่วนรวมได้ดียิ่ง


คำถาม
1.ข้อใดมีความหมายเกี่ยวข้องกัน
ตอบ ทศชาติชาดก – พระเจ้าสิบชาต
2.คำว่า " พระอนุชา "  หมายถึงผู้ใด
ตอบ พระโปลชนก
3.ข้อใดเป็นคุณลักษณะของพราหมณ์ทิศาปาโมกข์
ตอบ มีความเมตตา
4.การที่พระอรัฐชนกหลงเชื่อคำยุยงของอำมาตย์แล้วจับพระโปลชนกไปจองจำ  โดยไม่มีการสอบสวนตรงกับสำนวนไทยว่าอย่างไร
ตอบ หูเบา
5. การกระทำของอำมาตย์ตรงกับสำนวนไทยว่าอย่างไร
ตอบ ยุให้รำ  ตำให้รั่ว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น